วัดใต้น้ำ หรือ เมืองบาดาล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

by - พฤศจิกายน 27, 2562

   วัดใต้น้ำ หรือ วัดจมน้ำ หรือ เมืองบาดาล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อเสียงของ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และยังถือเป็น Unseen Thailand จึงทำให้นักท่องนิยมมาล่องเรือเพื่อชมซากโบราณสถานของวัด ซึ่งเป็นวัดที่จมน้ำ 2 และไม่จมน้ำอีก 1วัด

 วัดใต้น้ำ หรือ วัดจมน้ำ หรือ เมืองบาดาล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อเสียงของ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และยังถือเป็น Unseen Thailand
โบสถ์ วัดวังก์วิเวการามหลังเก่า Cr : FB Lunjakorn Hitopakorn
   เมืองสังขละบุรี เดิมตั้งอยู่บนพื้นราบ เมื่อมีการสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ จึงทำให้น้ำท่วมหมู่บ้านและวัดให้จมอยู่ใต้น้ำ ทำให้ชาวต้องอพยพขึ้นมาอยู่ด้านบน ทิ้งเมืองสังขละเก่าให้จมอยู่ใต้น้ำนาน 20 ปี ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันใน ชื่อวัดใต้น้ำ หรือ เมืองบาดาล โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือชมทั้ง 3 วัด ได้ที่บริเวณสะพานไม้มอญ คือ

วัดวังก์วิเวการามหลังเก่า ตั้งแต่ตุลาคม - มกราคม เป็นช่วงที่น้ำขึ้นมาก จึงทำให้น้ำท่วมจนเป็นเมืองบาดาล
วัดวังก์วิเวการามหลังเก่า(น้ำขึ้น) Cr : FB Sarinputh Kakzy
   1. วัดจมน้ำ หรือ วัดวังก์วิเวการามหลังเก่า เป็นวัดของชาวมอญ ที่หลวงพ่ออุตตมะร่วมกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ได้ร่วมกันสร้างขึ้นตามแบบศิลปะพม่า ในปี พ.ศ. 2496 ซึ่งปัจจุบันจมอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากการสร้างเขื่อนเขาแหลม จึงทำให้น้ำท่วมบริเวณหมู่บ้านชาวมอญและวัดวังก์วิเวการาม(เก่า) ซึ่งในช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนมีนาคม - เมษายน เป็นช่วงที่น้ำหลังเขื่อนลดลง จะสามารถเข้าไปเยื่อมชม ซากโบราณสถานของวัดและบ้านเรือนที่เป็นอดีตเป็นชุมชนชาวมอญ ที่หลงเหลือ เช่น อาคารบ้านเรือน โรงเรียน หอระฆัง วิหาร ซุ้มกำแพง และตัวโบสถ์ที่มีเพียงพนังที่มีลวดลายศิลปะแบบมอญหลงเหลือให้เห็น และด้านนอกโบสถ์จะมีเศียรพระหักวางไว้ ให้นักท่องเที่ยวได้สักการะบูชา ส่วนช่วงหน้าฝนต้นหนาว ตั้งแต่ตุลาคม - มกราคม เป็นช่วงที่น้ำขึ้นมาก จึงทำให้น้ำท่วมจนเป็นเมืองบาดาล เหลือเพียงบางส่วนของหอระฆังที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา

วัดวังก์วิเวการามหลังเก่า เดือนมีนาคม - เมษายน เป็นช่วงที่น้ำหลังเขื่อนลดลง จะสามารถเข้าไปเยื่อมชม ซากโบราณสถานของวัดและบ้านเรือนที่เป็นอดีตเป็นชุมชนชาวมอญ
วัดวังก์วิเวการามหลังเก่า(น้ำลด) Cr : FB Tui Thanchanok
   2. วัดสมเด็จเก่า อยู่ตรงข้ามเมืองบาดาล เป็นวัดของชาวไทย ที่ไม่ได้จมอยู่น้ำใต้น้ำเหมือนวัดอื่น แต่เป็นวัดถูกทิ้งร้างเมื่อครั้งย้ายอำเภอสังขละบุรี ตอนสร้างเขื่อนเขาแหลมหรือเขื่อนวชิราลงกรณ์ วัดตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆที่มีต้นไม้ปกคลุม จะต้องเดินบันไดขึ้นประมาณ 90 เมตร ภายในโบสถ์มีพระพุทธชินราชองค์ที่ 17 ที่มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์

วัดสมเด็จเก่า Cr : FB กัลยา ไชยมงคล
   3. วัดศรีสุวรรณเก่า เป็นวัดของชาวกระเหรี่ยง ที่มีอายุมากที่สุดใน 3 วัด เป็ดวัดที่จมอยู่ใต้น้ำมากที่สุดเมื่อเวลาน้ำขึ้นเหลือไว้เพียงบางส่วนที่โผล่พ้นน้ำหรือท่วมมิดจนมองไม่เห็น แต่ในช่วงเมษายน ช่วงที่น้ำลดจะสามารถลงไปเดินได้

วัดศรีสุวรรณเก่า เป็นวัดของชาวกระเหรี่ยง เป็ดวัดที่จมอยู่ใต้น้ำมากที่สุดเมื่อเวลาน้ำขึ้นเหลือไว้เพียงบางส่วนที่โผล่พ้นน้ำ
วัดศรีสุวรรณเก่า Cr : FB Mimiopor Kongsawat
แนะนำ
  - การเที่ยวชมวัดใต้น้ำสามารถเช่าเรือได้บริเวณสะพานไม้มอญ
  - ใช้เวลาในการล่องเรือชม 3 วัดประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
  - การล่องเรือ หน้าหนาว ในช่วงเช้า จะมีอากาศที่เย็นสบายและยังได้ชมวิวท่าทกลางสายหมอก ที่สวยงาม
  - การล่องเรือ ในตอนเย็นช่วงพระอาทิตย์ตก จะมีบรรยากาศและวิวโรแมนติก
  - วัดจมน้ำ หรือ วัดวังก์วิเวการามหลังเก่า ถ้ามาช่วงเมษายน เป็นช่วงที่ลดลงจนแห้งเห็นพื้นดิน ทำให้เดินชมหมู่บ้านมอญเก่า และ วัดได้ทั้งหมด อื่นๆ
  - วัดสมเด็จเก่า แม้จะไม่ถูกน้ำท่วม แต่ไม่ค่อยมีคนมาทำบุญเนื่องจากความลำบากในการเดินทาง วัดจึงย้ายไปสร้างที่บ้านไหล่น้ำ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี
  - วัดสมเด็จ ก่อนเดินเข้าโบสถ์ ให้แตะอธิฐานก่อน ผู้หญิงแตะด้านขวา ผู้ชายแตะด้านซ้าย และขอพรได้ 3 ข้อ (ข้อแรกขอเข้าโบสถ์ ข้อ 2-3 ขออะไรก็ได้) และให้เข้าด้านหน้าโบสถ์ เมื่อไหว้พระเสร็จให้ออกด้านหลัง โดยห้ามเหยียบธรณีประตู แล้วคำอธิฐานจะสมหวัง
  - วัดวังก์วิเวการามเก่า คือ วัดของชาวมอญ วัดศรีสุวรรณเก่า คือ วัดของชาวกระเหรี่ยง วัดสมเด็จ คือ วัดของชาวไทย

วัดสมเด็จเก่า อยู่ตรงข้ามเมืองบาดาล เป็นวัดของชาวไทย ที่ไม่ได้จมอยู่น้ำใต้น้ำเหมือนวัดอื่น แต่เป็นวัดถูกทิ้งร้าง
วัดสมเด็จเก่า Cr : FB กัลยา ไชยมงคล
   สิ่งอำนวยความสะดวก : วัดวังก์วิเวการามเก่ากับ วัดสมเด็จเก่า จะมีคนขายดอกไม้ธูปเที่ยนและไกด์เด็ก ให้ใช้บริการ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆจะอยู่ที่สะพานมอญ
   กิจกรรมท่องเที่ยว : ล่องเรือชมวิว, ศึกษาและชมซากโบราณสถาน, กราบไหวัสักการะพระพุทรรูป
   ค่าเช้าชม : ฟรี
   ค่าบริการ : ล่องเรื่อ ชม 3 วัด มีค่าบริการ 2 แบบ คือ เที่ยว 1 วัด 300 บาท 1-6 คน / เที่ยว 3 วัด 500 บาท 1-6 คน ถ้ามาไม่ถึง 6 คน สามารถรวมแจมกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นได้ เพื่อเประหยัดค่าใช้จ่าย (เรือนำเที่ยวจะอยู่บริเวณริมน้ำใต้สะพานมอญ)
   ฤดูท่องเที่ยว : เดือนมีนาคม - พฤษภาคม เป็นช่วงหน้าร้อน ที่น้ำหลังเขื่อนลดลง จะสามรถเดินเข้าไปเยี่ยมชมซากโบราณสถานของวัดและบ้านเรือนได้ และ ตุลาคม - มกราคม ช่วงปลายฝนต้นหนาว จะมีน้ำที่ขึ้นสูงจนทำให้ซากโบราณสถานของวัดและบ้านเรือนจมอยู่ใต้น้ำ หรืออาจะโผล่พ้นน้ำให้เห็นแค่บางส่วนเท่านั้น แต่ก็มีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่จัดทริปดำน้ำเพื่อชมเมืองบาดาล
   ที่เที่ยวไกล้ๆเคียง : วัดวังก์วิเวการาม 2.03 กม., เจดีย์พุทธคยา กาญจนบุรี 2.75 กม., สะพานมอญ 5.42 กม., จุดชมวิวแม่น้ำรันตี  9.96 กม., หมู่บ้านกองม่องทะ 18.60 กม., น้ำตกป่งป๊ง 18.74 กม., น้ำตกห้วยน้ำขุ่น 18.75 กม.

ชมวิวสะพารมอญ ระหว่างทางล่องเรือชม 3 วัด
ล่องเรื่อชมวิวสะพารมอญ Cr : FB Fern Pantira Mungpo
   ที่อยู่ : หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี 71240 โทร034-532099
   การเดินทาง
  - รถยนต์ :จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนเพชรเกษม 4 ผ่าน จ.นครปฐม มุ่งหน้าไปทาง จ.กาญจนบุรี โดยใช้ถนนแสงชูโต ทางหลวงหมายเลข 323 ผ่าน จ.กาญจนบุรี มุ่งหน้าไป อ.สังขละบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองสังขละบุรี แล้วขับรถตามทางไปเรื่อยๆ ก็จะถึงสะพานมอญ แล้วต่อเรือน้ำเที่ยวบริเวณริมน้ำใต้สะพานมอญ เพื่อชม 3 วัด
  - รถโดยสาร : ขึ้นรถที่สถานีขนส่งสายใต้ กรุงเทพฯ - กาญจนบุรี  เมื่อถึงกาญจนบุรีแล้วให้นั่งรถสายกาญจนบุรี - ทองผาภูมิ - สังขละบุรี และนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยังสะพานมอญ (ใช้เวลาเดินทาง 6 ชม) แล้วต่อเรือน้ำเที่ยวบริเวณริมน้ำใต้สะพานมอญ เพื่อชม 3 วัด

ชมวิวเจดีย์พุทธคยา ระหว่างทางล่องเรือชม 3 วัด
ล่องเรือชมวิวเจดีย์พุทธคยา Cr : FB May Amm Amm May
    ที่พัก : บริเวณรอบๆสะพานมอญ มีที่พักจำนวนมาก ทั้งโฮมสเตย์ ห้องเช่า โรงแรม แพริมน้ำ ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 300-4,000 บาท และมีลานกางเต็นท์ฟรี (มีบริการเช่าเต็นท์นอนอยู่หลายจุด)
   ที่พักใกล้สะพานมอญ
   - เลิฟ บริดจ์ เฮาส์ รีสอร์ท ห่าง 300 ม. ราคา 1,985-3,306 บาท
   - แพเคียงหมอก ห่าง 500 ม. ราคา 1,000 บาท
   - แคท แอนด์ ออยล์ โฮม ห่าง 700 ม. ราคา 1,000-2,000 บาท
   - สวนแมกไม้ รีสอร์ท ห่าง 800 ม. ราคา 1,100-1,800 บาท
   - Wangka Resort ห่าง 800 ม. ราคา 839-1,129 บาท
   - มอญ อินดี้ เกสต์เฮาส์ ห่าง 1.30 กม. ราคา 514-837 บาท
   - บ้านไอหมอก (Baan I-Mok) ห่าง 1.30 กม. ราคา 254-348 บาท
   - ที่พักสะพาญมอญทั้งหมด

   ข้อมูลจาก : กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, kanchanaburi, sitesgoogle, pantip

You May Also Like

0 Comments