น้ำตกป่าละอู จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 15 ชั้น แต่ละชั้นก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป โดยช่วงที่น้ำตกสวยที่สุดคือ เดือน สิงหาคม ถึง มีนาคม เนื่องจากมีน้ำมากและใสสะอาดจนมองเห็นฝูงปลา แต่ก็มีจุดที่สามารถเล่นน้ำได้อย่างปล่อยอยู่หลายจุด ส่วนตัวน้ำตกตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของผืนป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้บริเวณรอบๆน้ำตกเต็มไปด้วยนกนานาชนิด และผีเสื้อหายากนับหลายร้อยตัวที่มาโบยบินอยู่รอบๆ โดยเฉพาะช่วงเช้าของเดือน เมษายน ถึง กรกฎาคม 

ภาพจาก : FB Kittipob Glanarongran

   น้ำตกป่าละอู อยู่ห่างจากหัวหินประมาณ 60 กิโลเมตร ใกล้หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ.3  ตั้งอยู่ที่เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยระหว่างทางขับรถไปน้ำตก สองข้างทางจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ จึงทำให้อาจจะพบฝูงช้างป่าหรือว่าสัตว์ป่าออกมาหาอาหาร เมื่อถึงปากทางเข้าน้ำตก จะมีร้านอาหาร ร้านค้าสวัสดิการของทางอุทยานฯ ไว้บริการอาหารต่างๆ เช่น อาหารตามสั่ง ส้มตำ ไก่ย่าง อื่นๆ และจากที่จอดรถเดินไปตามเส้นทางแก่งกระทบเพื่อไปน้ำตกป่าละอู ตลอดเส้นทางล้อบรอบด้วยพรรณไม้ต่างๆ และนกที่เกาะตามกิ่งไม้ เช่น นกขุนแผนหัวแดง นกบั้งรอก นกหัวขวานใหญ่สีเทา นกคัดคูหางแพน ส่วนตามลำธาร โป่งดิน เต็มไปด้วยผีเสื้อหายากชนิดต่างๆ เช่น ผีเสื้อจรกา ผีเสื้อสีอิฐธรรมดา ผีเสื้อลายซิกแซ็ก  ผีเสื้อเจ้าชายดำ โดยเฉพาะช่วงเช้าๆจะพบได้มาก

ภาพจาก : FB Phashea Jinnie

   น้ำตกป่าละอู เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีต้นน้ำไหลมาจากชายแดนฝั่งพม่าที่ไหลลดหลั่นกันมาเป็นชั้น มีทั้งหมด 15 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป และทางเดินขึ้นน้ำตกก็จะยากขึ้นตามลำดับ โดยชั้นที่ 1-5 มีทางเดินที่สบายไม่ลาดชันนัก เป็นน้ำตกขนาดเล็ก สามารถเล่นน้ำได้ แต่ที่นักท่องเที่ยวนิยมคือชั้น 1-3 ซึ่งอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเป็นจุดที่เล่นน้ำได้ปลอยภัย

ภาพจาก : FB Phashea Jinnie

   หลังจากชั้น 5 จะเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ โดยชั้น 6-7 เจ้าหน้าที่ไม่แนะนำให้ขึ้นไป เนื่องจากต้องเดินข้ามน้ำ ปีนผาหิน หากต้องการขึ้นต้องไปมีร่างกายที่แข็งแรงหรือให้เจ้าหน้าทีช่วยนำทาง โดยน้ำตกชั้นที่ 7 เป็นชั้นที่สวยที่สุด เพราะเป็นแอ่งน้ำใหญ่อยู่ท่ามกลางป่า ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะชมความงามของน้ำตกถึงบริเวณชั้น 7 เท่านั้น และน้ำตกชั้น 7 ยังมีทางสามแพร่ง เมื่อไปทางขวาจะเป็นทางไป น้ำตกคลองปราณ โดยใช้เวลาเดินประมาณ 1 วัน และทางซ้ายจะเข้าเขตป่าละอูซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของชาวกะเหรี่ยง

ภาพจาก : FB Kittipob Glanarongran

   หลังจากชั้น 7 จะไม่มีเส้นทางขึ้นไป โดย ชั้นที่ 8-15 จะอยู่ในป่าทึบยากต่อการเดินทางเข้าถึง สามารถเดินทางไปกลับวันเดียวได้ แต่ต้องมีเจ้าหน้าอุทยานฯนำทางเท่านั้น เนื่องจากการปีนขึ้นไปแต่ละชั้น จะต้องไต่ไปตามโขดหินใหญ่ๆ ที่ค่อนข้างชันและลื่น ตามทางจะมีพันธ์พืชต่างๆ และหมู่แมลงมากหมาย เป็นความสวยงามที่หาชมได้ยาก เมื่อถึงชั้น 15 เดินทางต่ออีกเล็กน้อยก็จะถึงเขตพรมแดนไทย - พม่า

ภาพจาก : FB Phashea Jinnie

- น้ำตกป่าละอู ตั้งอยู่ที่เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ครอบคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันต์ พื้นที่ประมาณ 273,125 ไร่
- น้ำตกป่าละอู เป็นคำที่มากจากภาษากะเหรี่ยง โดยคำว่า ละอู ที่แปลว่าไผ่ เนื่องจากรอบๆน้ำตกมีต้นไผ่จำนวนมาก
- นักท่องเที่ยวขับรถมาเอง ควรใช้ความระมัดระวังไม่ขับรถเร็ว โดยเฉพาะช่วงหลังพระอาทิตย์ตก เนื่องจากอาจจะเจอสัตว์ป่าออกมาหาอาหาร
- เจ้าหน้าที่อนุญาตให้นำอาหารเข้าได้แค่น้ำตกชั้น 1 ส่วนชั้นอื่นๆให้พกได้เพียงน้ำเปล่าเท่านั้น
- สามารถพบปลาพลวงได้ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 5 แต่ชั้น 3 จะมีปลาพลวงมากที่สุดในโดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว
- ปัจจุบันมีจำนวนปลาพลวงมากขึ้นและมีขนาดใหญ่ แต่นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารด้วยมือและสัมผัสปลาได้อย่างใกล้ชิด โดยไม่มีอัตราย
- เจ้าหน้าที่แนะให้ขึ้นถึงชั้น 5 เพราะมีเส้นทางที่ลาดชันจึงได้จำกัดเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
- ชั้น 6-7 สามาถขึ้นไปได้ แต่ต้องมีร่างกายที่แข็งแรงหรือให้เจ้าหน้าทีช่วยนำทาง
- หลังจาก ชั้น 7 ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ให้พาขึ้นไปเท่านั้น เนื่องจากเป็นไม่มีเส้นทาง และค่อนข้างอันตราย
- นักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นไป เกินชั้น 5 ควรใส่รองเท่าใส่กระชับและไม่ลื่น สำหรับการปืนไต่

ภาพจาก : FB Phashea Jinnie

   เปิดเข้าชม : 8.00 น. - 17.00 น.
   ค่าเข้าอุทยานฯ : ผู้ใหญ่ คนละ 40 บาท/คน -  เด็ก คนละ 20 บาท/คน
   ค่าเข้าน้ำตกป่าละอู : ผู้ใหญ่ 100 บาท/คน - เด็ก 50 บาท/คน
   ที่จอดรถ : รถยนต์ : 40 บาท/คัน/วัน - มอเตอร์ไซค์ : 20 บาท/คัน/วัน
   สิ่งอำนวยความสะดวก : สิงอำนวยความสะดวกบริเวณทางเข้าน้ำตก ร้านอาหาร ห้องน้ำ บ้านพัก ลานกางเต้นท์ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อื่นๆ ส่วนด้านในน้ำตก เพียงแค่ เส้นทางเดินถึงชั้น 7 ป้ายบอกเส้นทาง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
   กิจกรรมท่องเที่ยว : เล่นน้ำตก นั่งเล่นชมวิวธรรมชาติตามโขดหิน ชมนก ชมผีเสื้อ เดินผจนภัยชมธรรมชาติ
   ฤดูท่องเที่ยวที่เหมาะสม : เดือน สิงหาคม ถึง มีนาคม น้ำตกจะสวยใสที่สุด เพราะจะมีน้ำมาก และฝนเริ่มทิ้งช่วง ส่วนช่วงเดือน เมษายน ถึง กรกฎาคม เหมาะแก่การดูผีเสื้อ เพราะตามลำธาร โป่งดินจะอุดมไปด้วยธาตุอาหารที่ผีเสื้อต้องการ (เที่ยวได้ตลอกทั้งปี)
   ที่เที่ยวในอุทยานฯ : ที่ทำการอุทยานฯ 82 กม., บ้านกร่างแคมป์ ห่าง 96 กม., เขาพะเนินทุ่ง 111 กม., น้ำตกทอทิพย์ 122 กม., โป่งลึก-บางกลอย 124 กม.