พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงวัตถุธรรมชาติ ทั้งในด้านธรณีวิทยาพฤกษศาสตร์ สัตวศาสตร์ทางทะเล เแห่งแรกในประเทศไทย โดยจุดประสงค์ที่ในเป็นแหล่งเรียนรู้และปลูกจิตสำนึกให้รักษาทรัพยากรธรรมชาติไว้ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวมุมสูง ที่สามารถมองเห็นหมู่เกาะที่อยู่รอบๆ เช่น เกาะแสมสาร เกาะแรด เกาะขาม ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี้ โดยจุดชมวิวที่สวยที่สุดจะอยู่ที่อาคารพิพิธภัณฑ์ชั้น5 เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะแก่การมาหาความรู้ศึกษาธรรมชาติของจริง และเหมาะที่จะท่องเที่ยวควบคู่ไปกับเกาะแสมสาร เนื่องจากตั้งอยู่ที่เดียวกันกับจุดขึ้นเรือไปเกาะแสมสารและยังใช้หางตั๋วเข้าชมได้ด้วย
Cr : FB Nattaya Boondaeng |
Cr : FB Aof Khwanjai |
อาคารหลังที่ 1 เทิดพระเกียรติมหาราช แบ่งออก 2 โซน
- โซนที่ 1 จัดแสดงความเป็นมาของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่ทรงสืบทอดจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามพระราชปณิธาน “เดินตามรอยเท้าพ่อ" เพื่อการเรียนรู้ทรัพยากรและสร้างจิตสำนึกให้อยากรักษาทรัพยากรธรรมชาติไว้
- โซนที่ 2 จัดแสดงความสัมพันธ์ระหว่างหิน ดิน และชีวิต เพื่อให้รู้ว่าดินเกิดอย่างไรและมีอนุภาคต่อระบบนิเวศอย่างไร รวมทั้งยังจัดแสดงรื่องราวของฟอสซิล ซากดึกดำบรรพ์ และฟอสซิลภายใต้ท้องทะเล ที่ถูกค้นพบโดยคณะสำรวจของโครงการฯ เพื่อให้คามรู้กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
Cr : FB Sirikran Mai |
- โซนที่ 1 จัดแสดงความรู้เกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพ ระบบนิเวศของป่าชนิดต่างๆ พรรณพืช สัตว์ และความหลากหลายของสมุนไพร
- โซนที่ 2 จัดแสดความรู้ ผู้ย่อยสลายในธรรมชาติได้แก่ ปลวก จุลินทรีย์ดิน เห็ดรา สัตว์หน้าดินในดิน อื่นๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในห่วงโซ่อาหาร ที่ทำให้มีความสมดุลในระบบนิเวศ
Cr : FB Sirikran Mai |
- โซนที่ 1 จัดแสดงความรู้ของระบบนิเวศสังคมพืช พืชฝั่งทะเลในหมู่เกาะแสมสาร รวมทั้งเรื่องงานวิจัยหอยทากบางชนิด เช่น หอยทากจิ๋วปากแตร หอยมรกต หอยทากสยาม และสิ่งมีชีวิตสามารถพบเห็นได้ง่าย เช่น ตุ๊กแกบิน กิ้งก่าบินและ ตะกอง
- โซนที่ 2 จัดแสดงความรู้ ประโยชน์จากระบบนิเวศของป่าชายเลน ที่มีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของชุมชนชววประมง เช่น พฤติกรรมของสัตว์น้ำในทะเล เช่น กุ้ง ปลา การใช้เครื่องมือของประมง ภูมิปัญญาชาวบ้านในการเดินเรือ และการทำพิธีบูชาแม่ย่านาง เพื่อแสดงความเคารพธรรมชาติ และขอพรให้แคล้วคลาด ก่อนที่นำเรือออกทะเล
Cr : FB Sirikran Mai |
- โซนที่ 1 จัดแสดงความรู้สิ่งมีชีวิตตามแนวปะการัง ที่พบในท้องทะเลไทย ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน เช่น ปะการัง กุ้ง หอย ปู ปลา ที่มีความสัมพันธ์กันในระบบ โซ่อาหาร และสายใยอาหาร
- โซนที่ 2 จัดแสดงความรู้ สาเหตุและปัญหาของมลภาวะที่เกิดขึ้นในท้องทะเลไทย เช่น ภาวะโลกร้อน ภาวะเรือนกระจก
- โซนที่ 3 จัดแสดง การฟื้นฟูธรรมชาติตามแนวพระราชดำริ และปลูกจิตสำนึกให้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล
- โซนที่ 1 ภายในอาคาร แบ่งออกเป็น 6 ส่วน
1. ดอกประดู่คู่ชาติไทย ให้ความรู้เกี่ยวกับ บทบาทหน้าที่ของทหารเรือไทย เช่น การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์สึนามิ การปฏิบัติหน้าที่ของเรือลาดตระเวน รวมทั้งความรู้เรื่อง แผนที่อาณาเขตทางทะเล การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล อื่นๆ
2. นักรบ-นักอนุรักษ์ ให้ความรู้เกี่ยวกับ ภารกิจต่างๆของกองทัพเรือ เช่น การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเล การอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล การจัดสร้างและวางแนวปะการังเทียม อื่นๆ
3. เทิดพระเกียรติศักดิ์แห่งราชนาวีไทย
4. เทิดไท้มหาราชาภูมิพล
5. เปิดปูมกองทัพเรือ ให้ความรู้เกี่ยวกับ แสนยานุภาพของกองทัพเรือไทยในสมรภูมิรบต่างๆ ตั้งแต่สมัยสุโขทัย - กรุงรัตนโกสินทร์ เช่น พิพาทระหว่างไทย-ฝรั่งเศส ร.ศ. 112, ยุทธนาวีเกาะช้าง และวีรกรรมอื่นๆของกองทัพเรือไทย
6. เที่ยวถิ่นทหารเรือ ให้ความรู้เกี่ยวกับ สถานที่ท่องเที่ยวในเขตกองทัพเรือและสถานที่ท้องเที่ยวใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
-โซนที่ 2 ภายนอกอาคาร เป็นลานพิทักษ์ศักยภาพทะเลไทย มีลีกษณะจำลองมาจากส่วนหัวเรือ โดยจุดนี้สร้างเพื่อให้สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้ในระยะไกล และยังติดตั้งกล้องส่องทางไกลให้นักท่องเที่ยว ได้ชมความสวยความของหมู่เกาะที่อยู่รอบๆ เช่น เกาะแสมสาร เกาะแรด เกาะขาม หมู่บ้านประมงช่องแสมสาร
Cr : FB นิยายะ ทะเลดาว |
แนะนำ
- อาคารที่ 1-4 จะตั้งอยู่ไม่ห่วงกันมากนั้น แต่อาคาร 5 จะตั้งอยู่บนยอดเขาซึ่งไกลจาก อาคารที่ 1-4 พอสมควร- การไปยังอาคารต่างๆ จะมีทางเดินเป็นบันได ตลอดทางเดินจะมีจุดพัก จุดนั่งเล่น มีจุดชมวิว ให้ได้พักเหนื่อย
- การเดินจากชั้น 1-5 จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที (หากไม่เวาะเทำกิจกรรมต่างๆ)
- สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้มีสูขภาพไม่แข็งแรง อาจจะไม่เหมาะเพราะต้องเดินขึ้นบันไดที่มีระยะทางไกลพอสมควร
- อาคารพิพิธภัณฑ์ฯ ชั้น5 ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี้ เพราะมีจุดชมวิวที่สวยมากๆ
- แต่ละอาคารจะมีไกด์ท้องถิ่นที่เป็นเด็กนักเรียนหรือเจ้าหน้าที่ คอยบรรยายให้ความรู้ และคอยตอบคำถามผู้ที่สนใจ
- จากอาคารชั้น 5 มีทางลงอีกหนึ่งทาง ทางนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ท้องทะเลแทบตลอดเส้นทาง
Cr : FB Nattaya Boondaeng |
เปิดเข้าชม : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 น. - 17.00 น.
ค่าเข้าชม : คนไทย 50 บาท เด็ก 20 บาท / ต่างชาติ 100 บาท (หากมีหางตั๋วเรือไปเที่ยวเกาะแสมสาร สามารถใช้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ฯได้)
สิ่งอำนวยความสะดวก : มีมากพอสมควร เช่น ห้องน้ำ ป้ายให้ความรู้ กล้องส่องทางไกล เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อื่นๆ
กิจกรรมท่องเที่ยว : ศึกษาธรรมชาติของจริง, ชมวิว อื่นๆ
ที่เที่ยวใกล้เคียง : เกาะสามแสน 2.5 กม.,หาดนางรำ - หาดนางรอง 4.16 กม., ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล สัตหีบ 4.81 กม., สวนน้ำรามายณะ 16.24 กม., หาดจอมเทียน 30.71 กม หาดคงตาล 32.88 กม.
Cr : FB Nattaya Boondaeng |
การเดินทาง
- รถยนต์ส่วนตัว
1. ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ ฯ – ระยอง จากมอเตอร์เวย์กรุงเทพ ฯ สุดทางที่ถนนตัดสายบายพาสอ้อมเมืองชลบุรี ขับรถตรงไปทางระยองผ่านทางแยกต่างระดับ ที่เบี่ยงซ้ายไปแหลมฉบังอาจจะ เปลี่ยนเส้นทางใช้ถนนสายนี้ไปทางถนนสุขุมวิทก็ได้ แต่แนะนำให้ ขับรถตรงไปทางระยอง ถึงทาง แยกต่างระดับให้เลี้ยวซ้ายไประยอง และสังเกตป้ายบอก ทางไปสัตหีบ พอถึงสามแยกสัตหีบ เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถนนสาย 331 ผ่านสนามบินอู่ตะเภาถึงสี่แยกไฟแดงบ้านกิโลเมตร 10 ขับรถตรงไปตามเส้นทางไปท่าเรือ สัตหีบ (ท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด) ไปนิดนึงให้เลี้ยวซ้ายเข้าบ้านช่องแสมสาร สังเกตป้ายบอกทางไปวิหารหลวงพ่อดำและพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะ และทะเลไทย ให้ขับไปทางป้ายพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย
2. ใช้เส้นถนนสุขุมวิท จากบางนาขับรถตรงไประยอง ผ่านชลบุรี บางแสน ศรีราชา พัทยา สัตหีบจากสามแยกสัตหีบไปถึงกิโลเมตร 6 มีสามแยกใหญ่ให้เลี้ยวขวาไปตาม ทางไปท่าเรือสัตหีบ ถึงสามแยกถนนตัดจากที่ มาจากบ้านกิโลเมตร 10 เลี้ยวขวาและใช้เส้นทางเดียวกับ การเดินทางเส้นทางที่ 1 ใช้ถนนสาย 331 แล้วใช้เส้น ทางเดียวกับเส้นทางแรก
- รถโดยสารสาธารณะ
นั่งรถกรุงเทพ - ระยอง (สายเก่า สายใหม่ไม่ผ่าน) บอกคนรถว่าลงที่ตลาดสัตหีบ เมื่อถึงตลาดสัตหีบแล้ว ให้ต่อรถสองแถว สีน้ำเงิน ที่ด้านหน้ารถมีป้ายเขียน ว่า แสมสาร เพื่อความมั่นใจให้ถามคนขับว่าไปท่าเรือเขาหมาจอ หรือไปที่ศูนย์อนุรักษ์การดำน้ำไหม เพราะรถคันนี้จะไปส่งที่หน้าศูนย์ฯ
- โดยรถตู้
จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นั่งรถตู้สายสัตหีบให้ไปลงที่ตลาดสัตหีบ แล้วต่อสองแถวแบบเดียวกันกับการเดินทางโดยรถทัวร์
Cr : FB Sirikran Mai |
- หลงเลเฮ้าส์ ราคา 942-1,155 บาท/คืน
- วราสิน รีสอร์ท (Warasin Resort) ราคา 1,895-3,605 บาท/คืน
- OYO 931 Sor Chareanpanit ราคา 539-1,497 บาท/คืน
ข้อมูลจาก : กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
0 Comments
ไม่อนุญาตให้มีความคิดเห็นใหม่