ทริป กรุงเทพฯ - เชียงคาน ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ 3 วัน 2คืน
นี่เป็นทริปท่องเที่ยวครั้งแรก ที่เดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ จากสมุทปราการ - อ.เชียงคาน จ.เลย โดยการเดินทางครั้งนี้ไปกันเพียง 3 คน และไปรับอีกคนที่ จ.เลย กับ มอเตอร์ไซค์ 2 คัน ซึ่งแผนการเดินทางที่ตั้งใจไว้คือ กรุงเทพ - สระบุรี - พิจิตร - พิษณุโลก - เลย - อ.เชียงคาน อาจจะแปลกใจทำไมถึงใช้เส้นทางนี้ซึ่งเป็นทางที่อ้อมพอสมควร สาเหตุก็เพราะเพื่อนต้องการไปไหว้หลวงพ่อเงิน ที่วัดวัดบางคลาน จ.พิจิตร เมื่อเลือกเส้นทางเสร็จก็ได้ทำการจองที่พัก โดยวันแรกได้จองไว้ในตัวเมือง จ.เลย เนื่องจากจะได้มีเวลาเวาะเที่ยวก่อนจะเข้าที่พัก วันที่ 2. พักที่ อ.เชียงคาน เพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวในช่วงเช้าของวันที่ 3 ก่อนวิ่งตรงกลับบ้าน
- จุดที่1 วัดบางคลาน หรือ วัดหิรัญญาราม จ.พิจิตร เป็นวัดที่หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังด้านไสยเวท คาถาอาคมต่างๆ เคยจำพรรษา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2375 - 2462 จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวเวาะเวียนมาสักการะอยู่เสมอ นอกจากนี่ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น โบราณวัตถุต่างๆที่ทางวัดได้สะสมไว้ พิพิธภัณฑ์ไชยบวรที่ด้านในประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริง หลวงพ่อเงิน อื่นๆ
(จากสมุทปราการ วิ่งเข้าสระบุรี ขับปตามถนนหมายเลข 1 และเลี้ยวขวาที่แยกตากฟ้า เข้าถนนหมาเลข 11 ระยะทาง 358 กม.)
- จุดที่2 วัดโพทะเล ผ่านหน้าวัดเห็นรูปปั่นชาลาวันขนาดใหญ่ ทื่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของพิจิตร จึงเวาะลงไปถ่ายรูป โดยภายในวัด มีอุโบสถที่ด้านในประประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่ออู๋ มีโรงเรียนวัดโพทะเลที่เป็นของราชการ อื่นๆ
( จากจุดที่1 ขับไปตามองค์การบริหารส่วนตำบล 3001 อีก 11 กม. )
- จุดที่3 ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก เป็นพระราชวังจันทน์มาก่อนในอดีต ภายในมีศาลาทรงไทยโบราณตรีมุข ด้านในมีพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประทับท่านั่งประกาศอิสะภาพ ขนาดเท่าองค์จริง ส่วนบริเวณรอบๆมีโบราณสถานต่างๆให้ได้เดินชม
(จากจุดที่2 ใช้ถนนหมายเลข 1067 และเลี้ยวขวาที่แยกโพธิ์ไทรงามเข้าถนนหมยเลข 117 ระยะทาง 100 กม.)
- จุดที่4 วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ จ.พิษณุโลก เป็นวัดที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย มีสถาปัตยกรรม ศิลปกรรมที่งดงาม โดยทั่วไปจะรู้จักเพราะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช ที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุดในประเทศไทย จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาสักการบูชาจำนวนมาก นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น พระพุทธชินสีห์ วิหารพระเหลือ
(จากจุดที่3 ใช้ถนนวังจันทน์ และเลี้ยวซ้าย เข้าสู่ ถนนหมายเลข 12 และเลี้ยวขวา ขับจนไปถึงวัด ระยะทาง 1.2 กม.)
- จุดที่ 5 ถึง ที่พักปั่นหยา เพลส จ.เลย เวลา 21.30น.
(จากจุดที่4 ขับต่อไปตามถนนหมายเลข 12 ไปเรื่อยๆ จนถึงทางแยกเข้าถนนหมายเลข 21 เพื่อนได้ตัดสินใจที่จะใช้เส้นทางถนนหมายเลข 21 ซึ่งมีระยะที่ใกล้กว่าถนนสายหลัก แต่กลับเป็นทางที่ช้ากว่า เนื่องจากเป็นเส้นทางขึ้นเขา มีโค้งที่อันตรายอยู่หลายจุด อีกทั้งตอนไปถึงเป็นเวลาประมาณ 17.00น ซึ่งเป็นเวลาที่ใกล้จะมึดแล้ว ตามเส้นทางมีไฟส่องสว่างแค่บางจุดเท่านั้น จึงทำให้ต้องขับด้วยความระมัดระวังมากขึ้น (หากมาถึงหลัง 15.30น. แนะนำให้ใช้เส้นทางหลักดีกว่า)
ถนนหมายเลข 21 หลัง 20.00น. |
วันที่ 2 เริ่มออกเดินทางจากที่พักเวลา 10.00น. โดยวางแผนเที่ยว 2 วัด 1 จุดชมวิว 1 ถนนคนเดิน
- จุดที่1 วัดป่าห้วยลาด อ.ภูเรือ จ.เลย เป็นวัดที่มีความสวยงามด้วยงานศิลปะสีสันสดใส ที่ถูกรอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ภายในวัดมีศาลาเฉลิมพระเกียรติที่ใหญ่โต สง่างาม ด้านในประดิษฐานพระสัพพัญญูรู้แจ้งสามแดนโลกธาตุ ที่เป็นพระประธานองค์ใหญ่ สีขาวบริสุทธิ์ ส่วนบริเวณรอบๆศาลามี พระตรีมูรติ พระอินทร์ พระพิฆเณศ พญานาค อื่นๆ
(จากที่พัก ตัวเมือง จ.เลย ขับย้อนกลับมาทาง ถนนหมายเลข 21 ระยะทาง 48 กม. )
-จุดที่ 2 วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง หรือชื่อเดิม วัดพระกริ่งปวเรศ อ.ภูเรือ จ.เลย เป็นวัดที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขาที่ขึ้นสลับซับซ้อนอยู่โดยรอบ ภายในวัดโดดเด่นด้วยอาคารไม้ที่มีลวดลายการแกะสลักที่สวยงาม และเป็นที่ประดิษฐาน องค์พระพุทธรูป พระพุทธเจ้าไภสัชยาคุรุไวฑูรยประภา จอมแพทย์ (พระกริ่งปวเรศ) นอกจากนี่ยังสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ อย่าง งานเกาะแกะสลักมาจากหินหยกแม่น้ำโขง เช่น พระนอน พระวิหาร นาคหัวบันได อื่นๆ
(จากจุดที่1 ขับไปตามถนนหมายเลข 21 ระยะทาง 9 กม.)
- จุดที่ 3 สกายวอล์คเชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเชียงคานเป็นอย่างมาก เดิมมีเพืยงพระใหญ่ภูคกงิ้วที่ประดิษฐานอยู่บนเนินเขา ต่อมาได้ถูกพัฒนาให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดเลย โดยสร้างสกายวอล์คให้เป็นจุดชมวิวที่สูงกว่าระดับแม่น้ำโขงกว่า 80 เมตร หรือเทียบเท่าตึก 30 ชั้น ทำให้สามารถชมความสวยงามธรรมชาติริมแม่น้ำโขง ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังได้สักการะพระใหญ่ภูคกงิ้วอีกด้วย
(จากจุด 2 วื่งกลับทางถนนหมายเลข 21 ผ่านทางเข้าอุทยานแห่งชาติภูเรือ (ไม่ได้เวาะเนื่องจากกลัวเวลาไม่พอ) เลี้ยวเข้าถนนหมายเลข 2399 และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ลย. 4014 ขับจนไปถึงสกายวอล์คเชียงคาน ระยะทาง 72 กม.)
(จากจุดที่ 3 ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ไปตามถนนหมยเลข 2195 ระยะทาง 23 กม.)
- จุดที่ 5 ถนนคนเดินเชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย พูดได้ว่าหากมาค้างคืนที่เชียงคานแล้วไม่ไป ถือว่ามาไม่ถึง เนื่องจากเป็้นไฮไลท์ของที่นี่ ด้วยความโดดเด่นของตลาดกลางคืนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกับตลาดอื่น จากความคลาสสิคของบ้านไม้สองข้างทาง ที่จะพาย้อยยุคไปสัมผัสวิถีชีวิตแบบเก่าๆในยามค่ำคืน จึงทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในฤดูหนาวของวันหยุด
( อยู่ทางทิศตะวันตก ขับไปตามถนนหมายเลข 211 ระยะทาง 1.5 กม.)
วันที่ 3 ออกจากที่พัก 8.00น. ว่างแผนเที่ยว 2 จุดชมวิว 1 วัด (กลับบ้าน)
- จุดที่ 1 จุดชมวิวภูทอก อ.เชียงคาน จ.เลย (อยู่ในแผน แต่ไม่ได้ไปเนื่องจากตื่นไม่ทัน)
- จุดที่ 2 แก่งคุดคู้ อ.เชียงคาน จ.เลย สถานที่ตากอากาศของคนเชียงคาน ที่สามารถลงไปเดินชมวิวธรรมชาติริมแม่น้ำโขงได้อย่างใกล้ชิดในช่วงเวลาที่น้ำลด ส่วนช่วงน้ำขึ้นสามารถนั่งรับประทานอาหาร รับลม ชมวิถีชีวิตชาวบ้านที่ล่องเรือหาปลา ท่ามกลางบรรยายกาศที่เงียบสงบเย็นสบาย
(ไปทางตะวันออก ขับไปตามถนนหมายเลข 211 ระยะทาง 3.5 กม.)
- จุดที่ 3 วัดพระบาทภูควายเงิน อ.เชียงคาน จ.เลย โบราณสถานเก่าแก่ทางพระพุทธศาสนาที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงคาน โดยจุดเด่นของวัดนี่คือ รอยของพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่บนหินลับพร้า(หินลับมีด) มีมุมชมวิวทิวทัศน์มุมสูงที่สวยงาม 360 องศา และการทำทานให้อาหารกระต่ายที่ทางวัดเลี้ยงไว้จำนวนมาก
(ขับไปตามถนนหมายเลย 211 ระยะทาง 9.6 กม.)
จุดที่ 4 ถึงกลับบ้าน เวลาประมาณ 01.00 น.
(จาก เชียงคาน กลับทาง เลย - เพชรบูรณ์ - สระบุรี กรุงเทพ - สมุทปราการ รวมระยะทางไปกลับประมาณ 1,650 กม.)
จุดชมวิว ถนนหมายเลข 21 |
แนะนำ
- ถนนหมายเลข 21 เส้นนี้ผ่านจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ซึ่งอยู่ห่างกันไม่มากนัก เช่น วัดป่าห้วยลาด วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง อุทยานแห่งชาติภูเรือ รวมทั้งตามเส้นทางยังมีจุดชมวิวอยู่หลายจุด
- ถนนหมายเลข 21 หากมาหลังพระอาทิตย์ตกดิน จะค่อยข้างอันตราย เนื่องจากเป็นเส้นทางขึ้นเขาที่คดเคี้ยว และมีไฟส่องสว่างแค่บางจุดเท่านั้น
- จุดชมวิวภูทอก อยู่ในแผนการเดินทางที่จะขึ้นไปชมทะเลหมอก แต่พลาดที่จะขึ้นไปชม เนื่องจากความเพลียและเหนื่อล้า จนตื่นไม่ทัน (จุดชมวิวภูทอก แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเชียงคานในฤดูหนาว )
สรุปค่าใช้จ่าย
- ค่านำมันรถประมาณ 1,000 บาท/คัน
- ค่าที่พัก ปั่นหยา เพลส 490 บาท/คืน (พักได้2-3คน) โทร095-6696632 , 0849530057
- บ้านหมอบิว 600 บาท/คืน (พักได้2-3คน) โทร 0887-6444123 , 088-5610140
หมายเหตุ : ราคานี้ยังไม่ได้หาร
- ค่าอาหาร ตามสั่งปกติ 40-50 บาท/3-4มื้อ
- น้ำดื่มน้ำหลังอาหาร เช่น น้ำเปล่า แปปซี่ 10-20บาท/3-4มื้อ
หมายเหตุ : เฉลี่ยค่าอาหารตกอย่างน้อยวัน 200 บาท/วัน (ไม่รวมเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์)
รีวิววันที่ 1 ธค. 2563
0 Comments